รู้ที่จิต แก้ที่จิต ตอน 2

เรื่องนี้ใครผิดใครถูก

พระภิกษุสงฆ์บวชอยู่ในวัด มีสีกงสีกาเข้ามาเกี้ยวพาราสี บางทีถึงกับถูกเขาหลอกให้สึกออกไปก็มี ใครเป็นผู้ผิด สีกงสีกาหรือเป็นผู้ผิด เปล่าทั้งนั้น พระไม่ดีเองต่างหากจึงไปหลงลมเขาแล้วก็เปลื้องจีวรออกไป

มีนิยายย่อๆ ที่จะนำมาเล่าให้เป็นตัวอย่าง มีท่านผู้หนึ่งอยู่ทางปราจีนบุรี บวชมา ๑๒ พรรษา พอบวชแล้วก็ริเป็นหมอเสน่ห์มหาระรวยเครื่องรางของขลัง พ่อค้าแม่ขายทั้งหลายได้ยินชื่อเสียงปรากฏโด่งดังก็พากันแตกตื่นไปหา ไปขอเสน่ห์มหานิยมบ้าง เครื่องรางของขลังบ้าง แกก็ทำของแจกจ่ายชาวบ้านเขาไป เขาก็ตอบแทนมาด้วยเงินทองบ้างตามสมควร อยู่มาภายหลังพอเก็บสะตุ้งสตังค์ไว้ได้บ้างสามสี่หมื่น แม่ค้าสาวร้านเสริมสวยก็ไปติดพันเข้า ไม่ใช่ติดพันแบบชนิดที่ว่าชู้สาว แต่ติดพันหลงเชื่อของดี เขากำลังคิดจะมาทำมาค้าขาย ก็คิดว่าท่านผู้นี้มีเสน่ห์มหาระรวยดี ก็ไปขอของดีมาเพื่อคนจะได้เข้าร้านเข้ารวงมากมาย เขาจะได้ร่ำรวย

ทีนี้อยู่ไปอยู่มาหลวงพี่แกก็หลงติดสาวแก่เข้าให้ซิ ก็ฉวยโอกาสเกี้ยวพาราสี “ถ้าสมมติว่าหลวงพี่จะสึกไปอยู่กับน้อง น้องจะเห็นดีเห็นชอบด้วยไหม” “ก็ดีซิ จะได้ช่วยกันสร้างโลกให้มีความเจริญรุ่งเรือง แต่ว่าก่อนจะสึกหาลาเพศไปนี่ มีเงินมีทองก็ให้ไปแต่งร้านรวงเอาไว้ก่อนซิ เมื่อสึกไปจะได้อยู่ด้วยกันสบาย” อ้าว! นี่ใครเป็นคนหลอกใครแน่ ลงผลสุดท้าย หลวงพี่มีเงินเท่าไรก็โกยให้เจ้าสาวไปหมด พอเจ้าสาวเอาไปแต่งร้านรวงสวยหรูเชียวแหละ “หลวงพี่สึกไปได้หรือยัง” “ถ้าหลวงพี่พร้อมก็นิมนต์สึกมาซิ” พอเสร็จแล้วแกก็ไปจัดการลาสิกขาบททันที พอลาสิกขาบทแล้วก็รีบเตรียมแพคของใส่กระป๋งกระเป๋า เช่าสามล้อนั่งไปจอดหน้าบ้าน อื๊ด…ลงไป หิ้วกระเป๋าลงจากรถ เจ้าสาวก็ถือมีดปังตอมาจากหลังบ้าน “อย่าเข้ามานะ! อย่าเข้ามานะ! ฟันหัวนะ!” ลงผลสุดท้ายก็เลยเสียท่า ใครหลอกใครในทำนองนี้ เราจะไปโทษนังผู้หญิงว่าหลอกพระหลอกเจ้า มันก็ไม่ถูกต้องเพราะพระไม่ดีเอง

เพราะฉะนั้น ในสมัยที่อาตมะมาอยู่วัดป่าสาลวันทีแรก คนเฒ่าคนแก่ทั้งหลายก็มาหาว่าหลวงพ่อนี่ไปชักชวนแต่สาวๆ เข้ามาวัดเยอะๆ ประเดี๋ยวมันจะมาหลอกเอาพระเณรให้สึกไปหมด หลวงพ่อว่าไง หลวงพ่อก็บอกว่า ดีซิ! ถ้าพระองค์ไหนไม่ดีจริง เขาจะได้หลอกสึกออกไปหมด จะได้เหลือพระดีๆ ไว้ค้ำศาสนา นี่ในทำนองนี้ เราจะไปโทษใคร ก็น่าจะโทษผู้ซึ่งเป็นผู้นำนั่นแหละ ชาวบ้านญาติโยมทั้งหลายเขาเชื่อพระ พระชักจูงไปทางไหนเขาก็เชื่อ บางทีถูกพระหลอกไปหมดเนื้อหมดตัว เช่น อย่างบางทีไปหลงเชื่อพระให้หวยให้เบอร์ พอเสร็จแล้วก็ให้ไป ตัวนี้แน่ล่ะ! ตัวนี้แน่ล่ะ! ไปใส่ทีไรก็ชวดทุกที ลงผลสุดท้ายขายไร่ขายนาหมดเกลี้ยง ไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว นี่อย่างนี้เป็นต้น อ่านต่อ...