รักษ์วงศ์กรรมฐาน ตอน 3

อย่าเพิกถอนสิกขาบทที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ

เวลานี้เราอาจไปมาหาสู่กัน พระเล็กพระน้อยพากันเดินทางไปเดินทางมา บางทีก็ไม่มีไวยาวัจกรจะถือปัจจัย ปัจจัยก็ถือเอาเอง ใส่ย่ามแล้วก็ใช้จ่ายเอง ทีนี้ถ้าเราทำอย่างนั้นมันก็เข้าทำนองที่ว่ากรรมฐานไข่เน่า เพราะฉะนั้น ขอได้โปรดพิจารณาถึงระเบียบวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ

ตามวินัยของพระภิกษุสงฆ์ พระนวกะต้องอยู่กับครูบาอาจารย์ผู้ปกครองไม่น้อยกว่า ๕ พรรษา ศึกษาธรรมวินัย ขนบธรรมเนียมของพระสงฆ์ให้ถูกต้องตามแบบฉบับ ฝึกนิสัยของตนให้มีความเคารพนบนอบต่อสิกขาบทวินัย ไม่กล้าที่จะละเมิดต่อสิกขาบทวินัยเพราะเห็นแก่ความจำเป็นเพียงเล็กน้อย เราจะเดินทาง อ้างเลศเพียงแค่ว่าไม่มีไวยาวัจกร ปัจจัยไม่มากก็เอาใส่ย่ามนำไปเอง อย่างนี้มันเข้าลักษณะกรรมฐานไข่เน่า

ถอนสิกขาบทวินัยเพื่อความสะดวกเพียงเล็กน้อย อาบัติหนักกว่าที่คิด

ทีนี้เราเอาใส่ย่าม รับมาด้วยมือเอง เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ควักออกจากย่ามไปซื้อของฉัน ซื้ออาหารฉัน เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ทุกคำกลืน ฉันข้าว ๒๐–๓๐ คำ เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ถึง ๓๐ ตัว ซื้อเป็ปซี่ขวดหนึ่งมาดื่ม ดื่มเข้าไปกี่อึก สมมติว่าดื่มไป ๓๐ ครั้ง ก็เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ ตัว ไปซื้อจีวรมาห่ม ก็อาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ทุกครั้งที่ห่มและเปลื้องออกจากกายทุกครั้ง แล้วก็ห่มอีกจนกว่าจีวรนั้นจะขาด เอามาสร้างกุฎิวิหารอยู่ก็เป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ทุกครั้งที่เดินเข้ามาแล้วก็เดินออกไป แล้วก็เดินเข้ามาอีก

ผู้ไม่เคารพสิกขาบทวินัย เป็นกรรมฐานลวงโลก

เมื่อเป็นเช่นนั้น เรามาถอนสิกขาบทวินัยที่พระพุทธองค์ทรงกำหนด เพียงเห็นแก่ความสะดวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เราไปแสดงตนเป็นนักปฏิบัติ เป็นกรรมฐานเผยแพร่ธรรมะ มันจะมิเป็นการหลอกลวงประชาชนไปหรือ แสดงตัวว่าเป็นผู้เคร่ง บทละครที่ใครเรียนมาแล้วจะเอาให้มีท่าทางเคร่งแค่ไหนก็ได้ แต่ว่าไส้ในนั่นไม่บริสุทธิ์สะอาด เมื่อเราไม่เคารพสิกขาบทวินัย ไปที่ไหนก็ไปเที่ยวหลอกลวงประชาชนอ่านต่อ...