สอนจิต สะกิดใจ ตอน 2

จิตหลอก

อาจารย์ของหลวงพ่อองค์หนึ่งนี่ท่านว่า เอ!... ในใต้บาดาลนี่มันจะมีอะไร ท่านก็ไปกำหนดจิตพิจารณาดู จิตมันก็หลอก มีพลาญหินเกลี้ยงๆ เป็นพลาญหินใหญ่ขนาดศาลานี่ (ศาลาพื้นหินอ่อนวัดวะภูแก้ว) ท่านบอกฆ้องใหญ่มันอยู่ใต้นี้ หลอกให้พระนวกะขุดก้อนหินนั้น กลางคืนก็ขนฟืนมาเผา ๆ ๆ ขุดลงไปได้วันละคืบ ๆ ๆ มันก็ไม่ทะลุก้อนหินสักที หลวงพ่อก็ไปเรียนท่านว่า ท่านอาจารย์ กิเลสมันหลอกน่า มันไม่มีหรอกฆ้อง ลงผลสุดท้ายก็ขุดไม่ทะลุ ก็เลยไม่เจอฆ้อง

พวกไปภาวนาอยู่ในป่าในเขา บางทีมันมีถ้ำอยู่ที่สูง ๆ ข้างหน้ามันเป็นเหวลงไป ไปภาวนาแล้วใจมันมีกิเลสอยากได้แก้ววิเศษบ้าง อยากได้อะไรบ้าง ทีนี้พอภาวนาไปแล้วมันจะมีแก้วเป็นแสงลอยมาใกล้ ๆ นั่งอยู่เฉย ๆ มันก็มาคลอเคลียอยู่นั่นแหละ พอเอื้อมมือจะไปจับปั๊บมันก็กระโดดหนีไป พอไล่มันไปมันก็กระโดดไป ๆ ๆ มันหลอกให้ไปตกเหวตายนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้น พระธุดงค์กรรมฐานที่ไปอยู่ในป่าในดง พวกแสวงหาของวิเศษ เพชรนิลจินดา หรือเหล็กหลงเหล็กไหลไปตายกันเยอะแล้ว

คือว่าสิ่งเหล่านี้ ถ้าพูดถึงว่ากฎหมายปกครองบ้านเมืองในปัจจุบันนี้ มันไม่เหมือนอย่างแต่ก่อน ประเทศอินเดีย พระเจ้าแผ่นดินองค์ใดนับถือพระศาสนา ท่านจะประกาศว่า ดินก็ดี น้ำก็ดี ภูเขาเถาวัลย์ก็ดี ทรัพยากรในอาณาจักรของเรา ขอยกถวายพระศาสนา พระสงฆ์ ถ้าอย่างในเมืองไทยเรานี่มีกฎหมายพิทักษ์ธรรมชาติ ทรัพยากรในผืนแผ่นดินอันนี้ ใครจะไปเอามาต้องขออนุญาตเสียภาษี ถ้าพระไปแสวงหาทรัพย์ในดินสินในน้ำ แม้แต่โบราณวัตถุอยู่ในเจดีย์เก่า ๆ ร้าง ๆ อะไรพวกนี้ พระจะไปเอาไม่ได้มันผิดกฎหมาย สิ่งใดที่มันผิดกฎหมายก็ผิดวินัย เมื่อสิ่งที่ผิดวินัยพระไปละเมิดวินัยมันก็เกิดวิบัติ

นักเลงพระ

เรื่องของนักเลงพระนี่หลวงพ่อก็ยังเคยโดน เมื่อก่อนมีคนเขาชอบให้พระหลวงพ่อมา เป็นของเก่าของแก่โบราณประจำตระกูล เขาให้มาก็เก็บเอาไว้ มีคนมาขอดู เขาบอกว่าพวกนี้มีแต่พระเก๊ แต่เก๊เขาก็อยากได้เขาออกปากขอ "โอ๊ย! ของเก๊ คุณอย่าเอาไปเลย" หลวงพ่อรู้ทัน "เอาอย่างนี้ คุณอยากได้ของฉันจริง ๆ ฉันไม่หวงหรอก บอกมาเลย ที่คุณดูอยู่นี่องค์ไหนดียอดเยี่ยมคุณดูแล้วพอใจบอกมาเลย ฉันจะหยิบให้คุณทันที" แกก็กราบขอโทษ ผมเล่นไม่ซื่อกับครูบาอาจารย์ "นั่นแหละ ทีหลังคุณอย่าไปทำอย่างนั้น คุณเล่นไม่ซื่อ คุณได้ไปแทนที่พระจะเป็นมงคลแก่คุณ กลับจะให้ความวิบัติแก่คุณ บอกมาเลยคุณต้องการองค์ไหน แต่ว่าคุณจะเอามากไม่ได้เพราะว่าลูกศิษย์ลูกหาญาติโยมฉันยังมีตั้งเยอะ นอกจากคุณแล้วเขายังจะมาขอฉันอีก" เขาก็หยิบองค์ที่ต้องการไป มาภายหลังเขาก็มาบอกว่า "พระที่หลวงพ่อให้ผมไป มีคนเขามาให้ผมตั้งห้าแสน" หลวงพ่อว่า "คุณอย่ามาคุย ฉันไม่เสียดายหรอก คุณอย่าเข้าใจว่าฉันไม่รู้นะ พวกคุณอย่างดีก็รู้แต่เพียงแค่ว่าพระนี้เนื้อผงเข้าแบบเข้าตำราเท่านั้น ส่วนทางในพวกคุณไม่รู้หรอก จะเป็นอะไรก็ตาม แม้แต่เปลือกหมากที่ฉันเจียนเอาเนื้อมันมาเคี้ยวแล้วฉันโยนไปมันก็ยังดีนะ"

เครื่องรางที่แท้จริง

เครื่องรางของขลังเป็นที่นิยมชมชอบในหมู่คนไทยทั่วๆ ไป แต่หลวงพ่อแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งว่าคนเก่งของเมืองไทยทำไมมันเบียดเบียนคนไทยด้วยกัน แทนที่จะคุ้มครองคุ้มกันคนไทยด้วยกันมันกลับเอาไปเป็นเครื่องมือเบียดเบียนซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นเครื่องรางของขลังที่ดีที่สุดก็คือความมีศีลมีธรรม เมื่อเรามีศีลมีธรรม เราไม่เบียดเบียนใคร ก็ไม่มีคนมาเบียดเบียนเรา แต่บางทีเดินทางไปโดนลูกหลงเขาเข้าก็แสดงว่ากรรมเก่าของเรามันให้ผล เช่นอย่างพระธุดงค์องค์หนึ่งเดินไปในป่า มีนายพรานหอกมันถือหอกไปเที่ยวล่าสัตว์ในป่า พอเห็นพระมันเกิดเลื่อมใสจะเข้าไปกราบพระ พระเห็นมันถือหอกเดินเข้าไปก็กลัวจะถูกทำร้ายเลยเดินหลบหนีไป พอเห็นว่านายพรานถือหอกเดินตามก็เข้าใจว่าเขาจะตามมาทำร้ายก็เลยมุดเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้รก พอไปถึงจุดที่พระเข้าไปซ่อนอยู่ นายพรานก็นึกขึ้นว่า เอ.... นี่พระท่านคงจะเห็นเราถือหอก ท่านกลัวจะทำร้ายท่านกระมังท่านจึงเดินหนีเราไป ก็เลยซัดหอกเข้าไปในพุ่มไม้ที่พระซ่อนตัวอยู่ ไปถูกพระตายพอดี อันนี้แสดงว่ากรรมเก่ามันให้ผล กรรมเก่าของพระองค์นี้ คืออะไร คือเมื่อก่อนนี้ ท่านเอาหอกไปเที่ยวซัดกบตายมานับไม่ถ้วน แล้วกรรมอันนั้นมาให้ผล

เพราะฉะนั้น ทางที่ดี ใครประสบความทุกข์ยากลำบากอะไรก็ตาม ให้นึกว่ามันเป็นกรรมเก่าของเรา อย่างหลวงพ่อในทุกวันนี้ หลวงพ่อนึกว่าเสวยกรรมเก่า ลูกที่เขาให้กำเนิดไว้ ๕-๖ คนไม่มีใครเลี้ยง เวลานี้หลวงพ่อรับเลี้ยงอยู่ ก็ยอมทนเอา ชาวบ้านเขาจะตราหน้าว่าเอาลูกเอาหลานมาเลี้ยงก็ยอม เพราะเด็กมันไม่มีที่พึ่งจริง ๆ เดี๋ยวนี้มันก็เริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันบ้างแล้ว ก็เกือบจะหมดภาระแล้ว บางทีนึกว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ นึกจะสลัดมันทิ้งไปก็กลัวกรรมเวรมันจะไม่หมด เพราะฉะนั้น จะต้องต่อสู้จนกว่ามันจะช่วยตัวเองได้ พอเขาช่วยตัวเองได้เมื่อไร หลวงพ่อก็หมดภาระหมดกรรมหมดเวรไป