หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

องค์ราชันดำ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรทะเลใต้ ตอนที่ 3


จากบทความของท่านพลตำรวจโทสรรเพชญ ธรรมาธิกุล ที่ผู้เขียนนำมาลงให้อ่านในตอนที่แล้วจะเห็นว่าการสาปมิได้กระทำโดยการใช้เวทมนต์คาถา ดังที่พวกเราเคยเข้าใจ เคยได้ยินได้ฟังหรือเคยได้อ่านจากหนังสือนิทาน นิยายต่างๆ เช่น การสาปคนให้กลายเป็นหิน เป็นสัตว์ หรือเป็นสิ่งต่าง ๆ

แต่การสาปในครั้งนั้นเป็นการใช้วิชาโหราศาสตร์ ซึ่งมีฤทธิ์อำนาจครอบคลุมไปทั้งเมือง ทำให้เกิดทุกข์ภัยต่าง ๆ นานา ประชาชนอยู่ในภาวะระส่ำระสาย แตกแยก ทะเลาะเบาะแว้งบ้านเมืองอ่อนแอ ง่ายต่อการเข้าครอบครองและครอบงำให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้กระทำโดยปราศจากการต่อสู้ขัดขวาง ดังเช่นเมืองนครศรีธรรมราช ภายหลังจากการถูกสาปแล้ว ก็ไม่เคยสงบสุขมีเรื่องมีราวมาโดยตลอด ประชาชนพลเมืองไม่ทราบถึงสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศของตน ได้แต่เผชิญชะตากรรมไป โดยคิดว่าเป็นเหตุการณ์หรือภาวะที่เกิดขึ้นตามปกติ การสาปโดยวิธีนี้ผู้กระทำต้องมีความรู้ ความสามารถในวิชาโหราศาสตร์ และพิธีกรรม ที่จะทำการอย่างนี้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้จะต้องมีความโหดเหี้ยมมากทีเดียว เพราะการกระทำอย่างนี้เป็นสิ่งที่เลือดเย็นมากแต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของการศึกสงครามในสมัยนั้น ผู้ชนะย่อมจะทำทุกวิถีทางที่จะยึดครองและควบคุมดินแดนที่ตัวเองแย่งชิงมาได้ให้อยู่ภายใต้อำนาจของตัวเองให้นานที่สุดทั้งการดำเนินการด้านการทหาร การเมืองที่ขาดไม่ได้ก็คือการกระทำด้านไสยศาสตร์ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าวิธีการของใครจะเข้มแข็ง และศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน เมืองนครศรีธรรมราชก็ไม่รอดพ้นการกระทำดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรศรีวิชัย ที่มีผลประโยชน์มหาศาล มีอิทธิพลครอบคลุมน่านน้ำทะเลใต้ทั้งทางด้านทะเลอันดามัน และ อ่าวไทย รวมไปถึงแหลมมาลายู หมู่เกาะชวา และเกาะสุมาตรา บางขณะกินเขตแดนไปถึง ศรีลังกา และครอบคลุมดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด จึงย่อมเป็นที่หมายปองของอาณาจักรอื่นและเมืองอื่นที่พยายามต่อสู้แยกตัวเป็นอิสระ ดังนั้นยามใดที่ศูนย์กลางแห่งนี้อ่อนแอ จะถูกโจมตีแล้วเข้ายึดครองเมื่อนั้น ซึ่งเกิดขี้นหลายครั้งหลายหนด้วยกัน แต่ละครั้งก็จะถูกกระทำย่ำยีด้วยพิธีกรรมทางไสยศาสตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั้นแสดงให้เห็นว่าดินแดนแห่งนี้เคยถูกสาปมาแล้วหลายครั้งแต่ครั้งที่หนักหนาสาหัสก็คือ การกระทำโดยอาณาจักรอโยธยาในปี พ.ศ.1830 ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนและผลกระทบที่เกิดขึ้นกว้างขวางและรุนแรง ประชาชนต้องตกอยู่ในภาวะที่เปรียบเสมือนฝันร้ายมาเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี แต่ถ้ารวมการกระทำครั้งอื่น ๆ ด้วยก็กินเวลาเป็นพันปี เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน ไม่มีใครล่วงรู้ถึงความเป็นไปเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะท่านพลตำรวจโทสรรเพชญ ฯ ได้ค้นพบจดหมายเหตุปูมโหร และให้ความสนใจค้นคว้าจนทราบความจริงและเก็บงำไว้อยู่ในใจตลอดเวลา จนกระทั่งองค์จตุคามรามเทพ ปรากฎขึ้น และยืนยันว่าสิ่งที่ท่านค้นพบนั้นเป็นเรื่องจริง


ไม้แกะรูปจตุคามรามเทพที่วัดพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช

ทีนี้ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมจึงต้องเป็นองค์จตุคามรามเทพ ท่านเกี่ยวข้องอย่างไรกับเมืองนครศรีธรรมราช เดิมชาวเมืองรู้แต่เพียงว่า ท่านคือเทวดารักษาเมือง โดยไม่ทราบว่าท่านคือเทวดาที่ยิ่งใหญ่องค์หนึ่ง พูดอย่างนี้อาจจะมีคนแย้งว่าไม่เคยได้ยินชื่อองค์ท่านมาก่อน ต้องยอมรับตามตรงครับว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีผู้เขียนเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อองค์ท่านมาก่อนเช่นกัน นั้นเป็นเพราะท่านไม่เคยแสดงอภินิหารอิทธิฤทธิ์ให้ปรากฎเป็นที่เล่าขานในนามองค์จตุคามรามเทพมาก่อน อันนี้คงเป็นความต้องการของท่านเอง เป้าหมายของท่านที่มาปรากฎในครั้งนี้เพื่อจะมาปฎิบัติภาระกิจสำคัญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการแก้อาถรรพ์คำสาป กำหนดดวงชะตาเมืองเสียใหม่โดยการสร้างหลักเมือง ซึ่งต้องรอเวลาฤกษ์ยามที่เหมาะสม พร้อมกับผู้ที่มีความรู้ความสามารถในภาคมนุษย์ มาช่วยเหลือท่าน ใช้เวลานับพันปีรอคอยอย่างเงียบๆ จึงทำให้คนทั่วไปไม่ค่อยได้ยินชื่อท่านบ่อยนัก แต่ในโลกของวิญญาณ หรือที่คนบางกลุ่มเรียกกันว่าโลกทิพย์ ไม่มีใครไม่รู้จักท่านรวมถึงมนุษย์ที่สามารถฝึกจิตจนสามารถติดต่อกับโลกทิพย์ได้ ต่างรู้จักท่านเป็นอย่างดี และให้ความเคารพยำเกรงกันทั้งนั้น ดังตัวอย่างที่ผู้เขียนได้เคยเขียนเรื่องเล่าไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คือเรื่อง ของ พลตำรวจตรี ตรีทศ รณฤทธิวิชัย (ยศปัจจุบัน) เมื่อครั้งที่ท่านเดินทางไปราชการที่ภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องถิ่นพาไปกราบพระสงฆ์องค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือกันมากทั้งชาวไทยและชาวพม่าชาวบ้านเชื่อกันว่าท่านสำเร็จญาณชั้นสูง เมื่อไปถึง พระองค์ดังกล่าวได้ลุกขึ้นจากแคร่ลงมาต้อนรับ เมื่อเข้าใกล้ก็นั่งลงกราบพร้อมกับพูดว่า “ขอคารวะผู้มาจากทะเลใต้” ด้วยกิริยาเช่นนั้นทำให้ผู้การตรีทศ ถึงกับตกใจที่ ตัวเองจะมากราบพระ แต่พอมาถึงพระกลับมากราบท่านเสียนี่ แต่คำพูดของพระองค์นั้นทำให้ผู้การทราบว่า แท้จริงพระท่านไม่ได้กราบตัวของผู้การ แต่ท่านกราบพระที่ผู้การแขวนไปเพียงองค์เดียว คือ เหรียญปิดตาพังพระกาฬ ซึ่งสร้างในนามของหลักเมืองนครศรีธรรมราช และทำให้ศักดิ์สิทธิ์โดย องค์จตุคามรามเทพ ตัวท่านผู้การเองเป็นศิษย์คนหนึ่งของหลักเมืองและทราบเรื่องราวดีว่า ท่านคือผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรทะเลใต้ จึงทำให้ท่านผู้การหายตกใจและหายสงสัย แต่ก็ยังจะมีปัญหาตามมาคือ ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยและคงอยากจะทราบต่อไปว่า ที่พระสงฆ์ท่านกราบนั้นเป็นการกราบองค์จตุคามรามเทพ หรือ พระปิดตาพังกระกาฬ และที่ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรทะเลใต้นั้น คือองค์ใดกันแน่ เพราะถ้าพูดถึงพระปิดตาพังพระกาฬ น่าจะเป็นนามที่คุ้นหูบุคคลในวงการพระเครื่องเนื่องจากนามนี้ ปรากฎขึ้นในรูปลักษณ์ของพระปิดตา ซึ่งถือเป็นพระปิดตาซึ่งมีชื่อเสียงองค์หนึ่งของภาคใต้และมีต้นกำเนิดในจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นระยะเวลานานพอสมควรทีเดียว แต่ก็ไม่มีใครทราบประวัติที่แท้จริงของพระพังพระกาฬ และไม่ทราบว่าใครเป็นคนสร้าง คนทั่วไปจึงเข้าใจแต่เพียงว่าเป็นการนำเอาพระที่เคยมีการสร้างและรู้จักกันแล้วมาสร้างโดยไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มคำว่า พระโพธิสัตว์พังพระกาฬนำหน้าเข้าไปอีก ประกอบกับในหมู่ลูกศิษย์ของหลักเมืองมีการกล่าวถึงและบูชาองค์จตุคามรามเทพกับพระโพธิสัตว์พังพระกาฬ ดุจองค์ๆ เดียวกัน ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสงสัยว่าท่านเกี่ยวข้องกันอย่างไร


เทวรูปจตุคามรามเทพ

เพื่อความเข้าใจและทราบถึงเหตุผลในการสร้างรูปตัววัตถุมงคลที่เกี่ยวข้องของหลักเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นพื้นฐานในการศึกษาและแสวงหาวัตถุมงคลดังกล่าว ผู้เขียนขอสรุปสั้นๆ ในเบื้องต้นนี้ และถ้ามีโอกาสจะนำเรื่องราวมาขยายความที่ละเอียดต่อไป แต่ถ้าท่านอยากทราบรายละเอียดที่มากกว่า อยากจะแนะนำให้ไปหาอ่านได้จากเอกสารกำกับวัตถุมงคลที่ออกในปี 2530 ตอนนี้จะขอเริ่มจากที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นว่าทำไมองค์จตุคามรามเทพ ต้องมาแก้อาถรรพ์คำสาป

ท่านเกี่ยวข้องอย่างไรกับนครศรีธรรมราช คำตอบก็คือท่านเคยเป็นกษัตริย์ในยุคเริ่มต้นอาณาจักรศรีวิชัย เคยสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ให้กับอาณาจักรแห่งนี้มาก่อน จึงกล่าวได้ว่าเป็นดินแดนที่ท่านสร้างสรรมา ผู้คนที่อยู่สืบทอดกันต่อมาในอาณาจักรศรีวิชัยจนถึงปัจจุบัน ก็คือลูกหลานของประชาชนในสมัยท่านนั่นเอง เมื่อมีเคราะห์กรรมเกิดขึ้นในดินแดนแห่งนี้ ท่านจึงจำเป็นต้องดูแลแก้ไข

สำหรับความเกี่ยวกพันระหว่างองค์ท่านกับองค์พระโพธิสัตว์พังพระกาฬ นั้น เป็นเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งแต่พอจะเรียนอธิบายต่อท่านผู้อ่านได้ว่า พระปิดตาพังพระกาฬ คือปางอวตารของพระโพธิสัตว์ที่กำลังจะลงมาจุติเป็นองค์จตุคามรามเทพ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ดังนั้น ในโลกของวิญญาณ เมื่อเห็นองค์จตุคามรามเทพ ก็เปรียบเสมือนได้เห็นพระโพธิสัตว์พังพระกาฬ หรือเมื่อได้เห็นพระโพธิสัตว์พังพระกาฬก็เหมือนเห็นองค์จตุคามรามเทพ ท่านทั้งสององค์ทรงพลังอำนาจมีอิทธิฤทธิ์อยู่เหนือกาลเวลา รอบรู้เรื่องราวแห่งจักรวาลและความเป็นไปในโลกนี้ จึงเป็นที่เคารพยำเกรงโดยทั่วไป

เมื่อวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชปรากฎขึ้น ณ ที่ใดจะเกิดปฎิกิริยาตอบสนองจากวิญญาณ ผีสาง เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ทั้งหลาย จนเราสามารถสำผัสได้ถึงอำนาจ บารมี แห่งองค์พระโพธิสัตว์พังพระกาฬและองค์จตุคามรามเทพ

ดังกรณีของ คุณหมวย มีจุดเริ่มต้นคือผู้เขียนตกลงรับหน้าที่ไปหาช่างตีมีด โดยท่านพลตำรวจโทสรรเพชญ ฯ ได้กรุณามอบเหล็กที่เหลือจากการตีมีดรุ่นแรกขนาดโตเท่ากำปั้นให้เป็นชนวน ผู้เขียนหาที่ตีมีดอยู่หลายแห่ง เสียเวลาไปนานโข จนกระทั่งมาพบที่ๆ ทำได้ คือ โกเนี้ยว อยู่ที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง โกเนี้ยว หรือชื่อจริงว่า บุญตัน สิทธิไพศาล มีความชำนาญในเรื่องตีมีดมาก ทั้งยังชอบเรื่องของพระเครื่องด้วย ผู้เขียนไปว่าจ้างตีมีด จนมีความสนิทสนมพูดคุยกันถูกคอจึงได้มอบพระองค์จตุคามรามเทพ พิมพ์ใบมะขาม เนื้อทองแดงให้ 1 องค์ โกเนี้ยวเห็นแล้วชอบใจ บอกต้องเก็บไว้ขึ้นคอ ต่อมาไม่นานมีหญิงสาวคนหนึ่ง โกเนี้ยวเรียกว่าไอ้หมวย เป็นลูกเจ้าของร้านทองในเมืองมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับโกเนี้ยวมาเยี่ยมที่บ้าน โกเนี้ยว จึงฝากองค์จตุคามรามเทพ พิมพ์ใบมะขามไปเลี่ยมทอง ไอ้หมวยรับพระแล้วใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ขากลับเห็นว่ามีเวลาจึงเลยไปที่อำเภอเกาะคา ไปที่วัด ๆ หนึ่งซึ่งไปอยู่เป็นประจำเพื่อไปดูหมอ โดยพระที่วัดดังกล่าวใช้วิธีการเข้าทรงเจ้าพ่อ เจ้าพ่อและวัดชื่ออะไรโกเนี้ยวไม่ยอมบอก เมื่อไปถึง ไอ้หมวยก็ลงจากรถ ขณะนั้นพระกำลังเข้าทรงอยู่พอดีเมื่อหันไปเห็นไอ้หมวยจึงรีดลุกขึ้นจัดแจง ห่มจีวรให้เรียบร้อยเดินลงจากกุฎิตรงไปยังไอ้หมวย เมื่อถึงก็นั่งลงคุกเข่าก้มกราบไอ้หมวยทันที พร้อมกับพูดว่าท่านพ่อใหญ่มาได้อย่างไรเนี่ย


เหรียญจตุคามรามเทพ

เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนไอ้หมวยตั้งตัวไม่ทัน เล่นเอาหน้าแดงด้วยความอายเพราะเกิดขึ้นต่อหน้าคนมากมาย ไอ้หมวยจึงหันกลับไปขึ้นรถรีบขับออกจากวัดทันที ระหว่างทางคิดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเกิดจากอะไร แต่ก่อนก็ไม่เคยเป็นอย่างนี้ มาเอะใจคิดถึงพระที่โกเนี้ยวฝากไปเลี่ยมทองก็คิดว่าน่าจะใช่แน่จึงรีบขับรถกลับไปหาโกเนี้ยว เล่าเรื่องให้ฟังพร้อมกับคืนพระ บอกว่าให้ไปเลี่ยมเอง เรื่องนี้ตัวคุณหมวย ปักใจเชื่อว่าเป็นพระองค์เล็ก ๆ นี่แน่นอนเพราะตัวเองไม่มีวัตถุมงคลอื่นติดตัว

ปัจจุบันคุณหมวยได้เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วผู้เขียนจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยด้วย สำหรับเบอร์โทรศัพท์ของโกเนี้ยวผู้เขียนต้องขออนุญาตไม่บอก ณ ที่นี้ เนื่องจากงานที่โกเนี้ยวทำนั้นบางครั้งจะติดพันถ้ามีโทรศัพท์มาขัดจังหวะบ่อย ๆ จะเสียงานได้แต่ถ้าท่านใดอยากทราบจริง ๆ เพื่อให้โกเนี้ยวยืนยัน กรุณาติดต่อไปที่ผู้เขียนจะพิจารณาบอกเบอร์ติดต่อให้ในส่วนของประสบการณ์เกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ อภินิหาร ทางด้านนี้ยังมีอีกหลายเรื่องคงต้องติดตามตอนต่อไป

จากเว็บไซต์ "www.rachandam.com" งานเขียนโดย....คุณสุวัฒน์ เหมอังกูร


ไปข้างบน