หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช

บุกทลายรังปลอม เหรียญขุนพันธ์


กรณีนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนโต พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ดำเนินคดีกับผู้ปลอมแปลงเหรียญที่ระลึกของครอบครัว ในงานพระราชทานเพลิงศพบิดา เมื่อวันที่ 22 ก.พ. โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้นำเหรียญออกให้ประชาชนเช่าบูชา ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะเหรียญที่ครอบครัวผลิตออกมา มีวัตถุประสงค์แจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาร่วมงานเป็นที่ระลึกโดยไม่ได้คิดมูลค่า พร้อมให้เบาะแสแหล่งผลิตใหญ่อยู่ย่านพรานนก กทม. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (8 มี.ค.) พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชิษณุพงศ์ ยุกตะฑัต ผบก.น.7 พ.ต.อ.วีระ เที่ยงรอด ผกก.สน.บางกอกน้อย นำหมายศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นร้านพุทธมงคลโลหะกิจ เลขที่ 998/2-4 ซอยกุฎีหลวง ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. โดยมีนายณสรรค์ ลูกชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ร่วมสังเกตการณ์ด้วย

จากการตรวจสอบพบว่าร้านพุทธมงคลโลหะกิจ เป็นตึกแถว 4 ชั้น 3 คูหา เปิดเป็นโรงงานรับทำวัตถุมงคลและเหรียญโลหะต่างๆ มีนายสุกิจ อรพรตระกูล อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของร้านและนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น โดยชั้น 1 และ 2 เป็นส่วนโรงงานพบแท่นพิมพ์ แท่นปัšมหลาย 10 เครื่อง มีคนงานกำลังปัšมเหรียญต่างๆอย่างขะมักเขม้น ส่วนชั้นที่ 3 และ 4 เป็นที่เก็บของและที่พักอาศัย

นายสุกิจให้การว่า เมื่อเที่ยงวันที่ 15 ก.พ. มีนายกฤตภาส สิทธิรักษ์ อายุ 60 ปี อ้างเป็นหลานชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช มาว่าจ้างให้ปั๊มเหรียญจตุคามรามเทพ 10,000 เหรียญ ลักษณะเป็นเหรียญเนื้อทองแดง ทรงกลม ด้านหน้าเป็นรูปจตุคามรามเทพ ด้านหลังเป็นรูป พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ยืนถือไม้เท้า ตกลงผลิตในราคาเหรียญละ 7.50 บาท ให้เสร็จ ภายในวันที่ 16 ก.พ. เพราะต้องเอาไปแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ตนจึงสร้างบล็อกพิมพ์เพื่อปั๊มเหรียญอย่างเร่งด่วน เมื่อปั๊มเหรียญไปได้ 8,800 เหรียญ บล็อกเกิดแตกเสียหาย ต้องหยุดพิมพ์ แต่ในเย็นวันเดียวกัน นายกฤตภาสเดินทางมารับของไป

นายสุกิจให้การต่อว่า หลังนายกฤตภาสมาว่าจ้าง ได้โทรศัพท์ไปหานายณสรรค์ ลูกชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เพื่อแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ เพราะนายณสรรค์กับตน รู้จักกันนานเกือบ 20 ปี และว่าจ้างให้ผลิตเหรียญทุกรุ่นมาโดยตลอด โดยนายณสรรค์บอกตนขณะนั้นว่า ขอตรวจสอบก่อน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเมื่อมีผู้มาว่าจ้าง ก็ต้องทำ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงให้เช่าเหรียญ ทั้งนี้ นายสุกิจยังได้มอบนามบัตรของนายกฤตภาสให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน โดยนามบัตรระบุชื่อและตำแหน่งของนายกฤตภาส เป็นอัยการอาวุโส สำนักอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เบอร์โทรศัพท์ 0-2591-0535-6 ต่อ 300 และเบอร์มือถือ 08-9211-2532


เหรียญขุนพันธ์ของจริง

ด้านนายณสรรค์ ลูกชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช กล่าวปฏิเสธไม่รู้จักกับนายกฤตภาส ที่อ้างตัวเป็นหลานชายพ่อตน เชื่อว่าลูกหลานทุกคนคงไม่ทำแบบนี้แน่ นายกฤตภาสมีจุดประสงค์ผลิตเพื่อไปปล่อยให้ประชาชนเช่ามากกว่า เพราะในการแจกเหรียญที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ ลูกหลานได้จัดทำเหรียญที่ผ่านการปลุกเสก 3 แบบ รวม 100,500 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญทองแดงรมดำ 20,000 เหรียญ เหรียญเงิน 500 เหรียญ และแบบผง 80,000 เหรียญ เท่านั้น

ขณะที่ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า เมื่อได้รับการร้องเรียนจึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้น ส่วนเจ้าของโรงงานยอมรับว่าทำจริง เพราะมีผู้มาว่าจ้าง อ้างเป็นหลานชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จะนำเหรียญไปแจกในงานพระราชทานเพลิงศพ แต่นายสุกิจไม่ได้ เกี่ยวข้อง เมื่อมีผู้ว่าจ้างก็ต้องทำ อย่างไรก็ตาม จะสอบสวนปากคำนายสุกิจอย่างละเอียดว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับการทำเหรียญโดยไม่ผ่านการปลุกเสกแล้วมาปล่อยให้เช่า เป็นการหลอกลวง มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 10,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนายกฤตภาส หลานชาย พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุไว้ในนามบัตร โดยนายกฤตภาสกล่าวยืนยันว่า พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช มีศักดิ์เป็นลุง ตนมีพยาน เป็นแม่ของตนที่ยังมีชีวิต และให้การเป็นพยานได้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผลประโยชน์การสร้างเหรียญ ที่ทำให้ลูกหลานแตกแยกกัน ไม่อยากออกมาตอบโต้ เพราะเป็นการทำให้เหรียญมีราคามากขึ้น จะรอให้เจ้าหน้าที่เรียกไปสอบสวน และจะเปิดเผยทุกอย่าง ส่วนเรื่องการไปว่าจ้างทำเหรียญ เพื่อเอาไปแจกเป็นที่ระลึกกับผู้มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ไม่ได้เอาไปปล่อยให้เช่า


ไปข้างบน