หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่

"พูโล" เชื่อ "ทักษิณ" ลงจากอำนาจไฟใต้ยุติ



รองประธานกลุ่ม PULO อดีตแกนนำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ เชื่อการยึดอำนาจในไทย จะสามารถช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ได้ ด้านสื่อนอก วิเคราะห์ผลกระทบการยึดอำนาจของไทย

นาย ลุคมัน บี ลิมา รองประธานกลุ่ม PULO ซึ่งลี้ภัยอยู่ในประเทศสวีเดน ให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว AP เชื่อ การโค่นล้มการปกครองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะสามารถแก้ปัญหา และความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ได้ และเชื่อว่าปัญหาทางการเมืองต่างๆจะได้รับการแก้ไขภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่ง นายลุคมัน ระบุว่า เป็นบุคคลเดียว ที่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง

สำนักข่าว BBC เสนอบทความวิเคราะห์การยึดอำนาจในประเทศไทย ระบุ สร้างความวิตกกังวลให้นานาประเทศต่อกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยในภูมิภาค โดยเฉพาะในพม่า ชี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากนักลงทุนจะชะลอการลงทุนในบทความดังกล่าว ระบุ สาเหตุของการยึดอำนาจมาจากความแตกในสังคมหลังการขึ้นสู่อำนาจของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

และระบุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ จะไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านในสังคมไทย หากคณะปฏิรูป ดำเนินการคืนอำนาจทางการเมืองให้กับประชาชนภายในเวลา 1 ปี ตามที่ได้ประกาศไว้

อย่างไรก็ตาม BBC มองว่า การยึดอำนาจโดยกองทัพไทยครั้งนี้ ได้สร้างความวิตกให้กับประเทศตะวันตกอย่างรุนแรง เนื่องจากไทย ว่างเว้นจากการรัฐประหารมาแล้วถึง 15 ปี จึงทำให้มองว่าการเมืองไทยยังไม่มั่นคง และอาจส่งผลต่อการพัฒนาการเมืองในประเทศพม่า ซึ่งไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่มีอิทธิพลที่แท้จริงต่อรัฐบาลทหารของพม่า และเป็นไปได้ยากที่ พล.อ.สนธิ จะกดดันรัฐบาลพม่า เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย

ส่วนผลกระทบในด้านเศรษฐกิจนั้น BBC มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เปรียบเหมือนประเทศไทย ถูกโจมตีด้วย สึนามิ เมื่อปี 2004 เพราะจะทำให้นักธุรกิจต่างชาติ ชะลอการลงทุน และนโยบายการใช้งบประมาณของรัฐบาลชุดเก่าอาจถูกทบทวน แม้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ยกเลิกแผนการที่จะเดินทางมาประเทศไทย แต่นักธุรกิจต่างประเทศ จะจับตาดูแนวทางการดำเนินการต่อ ชินคอร์ป ซึ่งหากคณะปฏิรูป ตัดสินใจเข้าควบคุมบริษัทดังกล่าว ก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักธุรกิจอย่างรุนแรง


ไปข้างบน