หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook

จิตแพทย์แนะติดตามข่าวสารใจเป็นกลางหากทนไม่ได้ให้ปิดรับสื่อ

อธิบดีกรมสุขภาพจิตขอให้ประชาชนนำเหตุการณ์ยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ในอดีตเป็นบทเรียนในการปรับตัว โดยทั่วไปมักปรับตัวได้ภายใน 2-6 สัปดาห์ ย้ำผู้ใหญ่ในบ้านเมืองกำลังหาทางทำให้บ้านเมืองสงบ การติดตามข่าวขอให้วางใจเป็นกลาง ถ้ารู้สึกทนไม่ได้ให้ปิดการรับสื่อ ระบุการยึดอำนาจครั้งนี้ไม่กระทบสุขภาพจิต เพราะไม่ยืดเยื้อไม่สูญเสียเลือดเนื้อ

นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่าภาวะไม่ปกติทางการเมืองในประเทศไทยเป็นภาวะที่ประชาชนรับรู้มายาวนานเกือบปีแล้ว เมื่อคำสั่งของ “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เข้ายึดอำนาจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้ ไม่ใช่จะเกิดขึ้นครั้งแรกถือเป็นเรื่องปกติของการเมืองที่มีการขึ้นๆ ลงๆ ขอให้ประชาชนเรียนรู้การปรับตัวจากเหตุการณ์ในอดีต เมื่อมีการยึดอำนาจเพื่อจัดการให้บ้านเมืองสงบ และเท่าที่ฟังคำประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ทุกคนคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก และการยึดอำนาจเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีการเสียเลือดเนื้อ ไม่ยืดเยื้อรุนแรง

“การเปลี่ยนแปลงทางเมืองแบบฉับพลัน คนเรามีกระบวนการทางจิตใจจัดการปรับตัวปรับใจรับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปจะใช้เวลา 2-6 สัปดาห์ในการปรับตัว หลายคนผ่านจุดทดสอบของชีวิตมาอย่างโชกโชนโดยเฉพาะผู้นำในแวดวงต่างๆ อาจไม่ต้องใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์เขาก็จัดการด้านจิตใจได้ แค่ 1-2 วัน ก็ปรับตัวได้ เป็นช่วงของการจัดระบบใหม่ หมุนเวียนคนอื่นมาทำหน้าที่แทน” นพ.ม.ล.สมชาย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนบางส่วนกังวลถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สถานการณ์ยึดอำนาจที่เกิดขึ้น เท่าที่เห็นทหารยิ้มแย้มแจ่มใสดี ทหารกับประชาชนแบ่งปันน้ำอาหารให้กันจะมีความผิดปกติก็คือ มีทหารถือปืนยืนตามสี่แยก มีรถถัง แต่โดยทั่วไปเหตุการณ์สงบ ภาพแบบนี้จะหายไปโดยเร็วทุกอย่างจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ ช่วงนี้อาจมีความลำบากในการเดินทางหากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องออกนอกบ้าน ให้ติดตามข่าว ฟังข่าวเป็นเพื่อน

อธิบดีกรมสุขภาพจิตแนะนำการติดตามข่าวว่า ต้องแบ่งเวลาให้ถูก ควรพักผ่อนนอนหลับ ถ้าตรากตรำร่างกายติดตามข่าว จะทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด ควรหาเวลาพักผ่อน และที่สำคัญต้องวางตัวป็นกลาง อย่าเข้าข้างฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งมากเกินไป เปิดใจรับฟังทั้งสองฝ่าย ถ้ารับไม่ได้ก็ปิดการรับสื่อ การไม่รับรู้หรือวางเฉยเสียบ้างอย่างน้อยที่สุด เป็นการปกป้องทางจิตใจของคนเรา


ไปข้างบน