thailand_918
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยครั้งที่ 27 จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 หลังจากที่มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรไทยชุดที่ 25 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง กองทัพได้ก่อการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เพื่อขับไล่รัฐบาลรักษาการพลเรือน คณะนายทหารที่รู้จักกันในชื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขึ้นสู่อำนาจภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2559 คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นและจัดให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อรับรองร่างรัฐธรรมนูญ พวกเขาห้ามวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและห้ามติดตามผลประชามติ นักเคลื่อนไหวต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญถูกจับกุม ควบคุมตัว และดำเนินคดีในศาลทหาร[12] ขณะที่ผู้ออกมาแสดงเจตนาคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญก็ถูกรัฐบาลทหารจับกุมและดำเนินคดีเช่นกัน[13]
ในปี พ.ศ. 2562 หลังจากเกิดความล่าช้าหลายครั้ง ในที่สุดรัฐบาลทหารก็จัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกมองว่าพลเอกประยุทธ์มีข้อได้เปรียบ เนื่องจากวุฒิสภามาจากการแต่งตั้งทั้งหมดโดยรัฐบาลทหารและการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ในช่วงนาทีสุดท้าย
พลเอกประยุทธ์เริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562[16] ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียง 8 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การสิ้นสุดวาระนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เนื่องจากมีการตีความมากมายเกี่ยวกับการเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[17][18][19] เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาให้วาระการดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์เริ่มในปี พ.ศ. 2560 ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หมายความว่าเขาอาจดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนถึงปี พ.ศ. 2568 หากเขาได้รับเลือกจากรัฐสภาอีกครั้ง
ปลายปี พ.ศ. 2565 เกิดการแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐระหว่างพลเอกประยุทธ์กับรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่สนิทคือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังจากที่พลเอกประวิตรแสดงจุดยืนต่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 พลเอกประยุทธ์ได้ประกาศความสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และสมัครเป็นสมาชิกแบบตลอดชีพของพรรคดังกล่าวในเดือนถัดมา มีการคาดหมายว่าเขาจะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนเดียวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านพรรคภูมิใจไทย มีผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านบางส่วน รวมถึงนักการเมืองอีกจำนวนหนึ่ง ได้ลาออกจากพรรคเดิมที่ตัวเองสังกัดไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อเพิ่มโอกาสชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
|
|